Knowledge Basics

CCI Indicator คืออะไร? วิธีการใช้และความสำคัญในตลาดการเงิน

CCI Indicator เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่มีประโยชน์ในการระบุแนวโน้มของตลาดและหาจุดกลับตัวของราคา ช่วยให้นักเทรดสามารถตัดสินใจในการซื้อขายได้แม่นยำและลดความเสี่ยงในการลงทุนได้ดียิ่งขึ้น

CCI Indicator คืออะไร?

CCI (Commodity Channel Index) เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่พัฒนาโดย Donald Lambert ในปี 1980 ใช้ในการระบุการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มราคาและความแข็งแกร่งของแนวโน้มในตลาดการเงิน แม้จะถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้ในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity Market) แต่ CCI Indicator ก็ถูกนำมาใช้ในหลายตลาดอื่นๆ เช่น ตลาดหุ้นและตลาด Forex

CCI คือเครื่องมือวัดความแตกต่างระหว่างราคาปัจจุบันและราคาเฉลี่ยในอดีต โดย CCI สามารถช่วยให้นักเทรดระบุแนวโน้มของตลาดได้ เช่น ระบุจุดกลับตัวของราคา หรือภาวะ Overbought (การซื้อมากเกินไป) และ Oversold (การขายมากเกินไป)

การตีความค่า CCI ค่า CCI สูงกว่า +100 บ่งชี้ว่าราคากำลังเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้นใหม่ที่แข็งแกร่ง ซึ่งเป็นสัญญาณสำหรับการซื้อ ค่า CCI ต่ำกว่า -100 บ่งชี้ว่าแนวโน้มขาลงใหม่ที่แข็งแกร่งอาจเกิดขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณสำหรับการขาย

วิธีการใช้งาน CCI Indicator ในการวิเคราะห์ตลาด

CCI Indicator จะทำโดยการเปรียบเทียบราคาปัจจุบันกับราคาเฉลี่ยในอดีตในช่วงเวลาที่กำหนด โดยค่าที่ได้จะช่วยให้นักเทรดระบุแนวโน้มของตลาดและหาจุดกลับตัวของราคาได้ นอกจากนี้ค่า CCI ที่สูงหรือต่ำเกินไปบ่งบอกถึงภาวะ Overbought หรือ Oversold ซึ่งอาจนำไปสู่การกลับตัวของราคา

การระบุแนวโน้มของตลาด

-ค่า CCI ที่มากกว่า +100: เมื่อค่า CCI สูงกว่า +100 หมายความว่าราคาอาจมีแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง โดยอาจเป็นสัญญาณในการเข้าซื้อ (Buy) ของนักเทรด

-ค่า CCI ที่ต่ำกว่า -100: เมื่อค่า CCI ต่ำกว่า -100 หมายความว่าราคาอาจมีแนวโน้มขาลงที่แข็งแกร่ง โดยอาจเป็นสัญญาณในการขาย (Sell) ของนักเทรด

การระบุภาวะซื้อมากเกินไปและขายมากเกินไป

CCI สามารถระบุภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) และขายมากเกินไป (Oversold) ซึ่งสามารถใช้เป็นสัญญาณในการขายหรือซื้อได้ 

ภาวะ Overbought: เมื่อ CCI มีค่ามากกว่า +100 บ่งชี้ว่าราคาอาจสูงเกินไป และอาจเกิดการปรับตัวลง นักเทรดอาจพิจารณาขายสินทรัพย์ในช่วงนี้

ภาวะ Oversold: เมื่อ CCI ต่ำกว่า -100 บ่งชี้ว่าราคาอาจต่ำเกินไป และอาจเกิดการปรับตัวขึ้น นักเทรดอาจพิจารณาซื้อสินทรัพย์ในช่วงนี้

การหา Divergence

Divergence เป็นการเกิดขึ้นเมื่อทิศทางของ CCI ไม่ตรงกับทิศทางของราคา:

-Bullish Divergence: เกิดขึ้นเมื่อ CCI สร้างจุดต่ำที่สูงขึ้น แต่ราคาสร้างจุดต่ำที่ต่ำลง บ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ที่แนวโน้มขาขึ้นกำลังเริ่มต้น

-Bearish Divergence: เกิดขึ้นเมื่อ CCI สร้างจุดสูงที่ต่ำลง แต่ราคาสร้างจุดสูงที่สูงขึ้น บ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ที่แนวโน้มขาลงกำลังเริ่มต้น

สามารถใช้ร่วมกับอินดิเคเตอร์ทางเทคนิคอื่นๆ: CCI สามารถใช้ร่วมกับอินดิเคเตอร์ทางเทคนิคอื่นๆ เพื่อเพิ่มความแม่นยำได้ ตัวอย่างเช่น CCI สามารถใช้ร่วมกับเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average) เพื่อระบุการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้ม

การปรับเปลี่ยน CCI ตามความผันผวนของตลาด

เนื่องจาก CCI ไม่มีขอบเขตตายตัว (unbound) ระดับ Overbought และ Oversold จึงไม่ใช่ค่าที่คงที่ นักเทรดมักจะดูค่าที่ผ่านมาเพื่อระบุระดับที่ราคามักจะกลับตัว ตัวอย่างเช่น สินทรัพย์บางตัวอาจมีการกลับตัวที่ระดับ +200 และ -150 ในขณะที่สินค้าโภคภัณฑ์อีกประเภทอาจมีการกลับตัวที่ระดับ +325 และ -350 การปรับค่าของ CCI ตามความผันผวนของตลาดจึงเป็นสิ่งสำคัญในการเพิ่มความแม่นยำของการวิเคราะห์

สูตรคำนวณ CCI (Commodity Channel Index)

CCI = (Typical Price – SMA) / (0.015 * Mean Deviation)

โดยที่:

-Typical Price (TP) คือค่าเฉลี่ยของราคาสูงสุด ราคาต่ำสุด และราคาปิด ในช่วงเวลาที่เลือก

-SMA (Simple Moving Average) คือค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ของ Typical Price ในช่วงเวลาที่กำหนด

-Mean Deviation คือค่าเบี่ยงเบนเฉลี่ยของ Typical Price จากค่า SMA ในช่วงเวลาเดียวกัน

-0.015 เป็นค่าคงที่ที่ใช้ในการปรับค่า CCI ให้เข้ากับช่วง -100 ถึง +100

ช่วงเวลาที่ใช้บ่อยที่สุดในการคำนวณ CCI คือ 20 แต่คุณสามารถปรับช่วงเวลาให้เหมาะสมกับกลยุทธ์การเทรดของคุณได้

การใช้ CCI ร่วมกับตัวชี้วัดทางเทคนิคอื่น ๆ

ตัวชี้วัดทางเทคนิคที่เมื่อใช้ร่วมกับ CCI จะช่วยเพิ่มความแม่นยำในการวิเคราะห์ทางเทคนิค

1. Moving Averages (ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่)

การใช้ CCI ร่วมกับค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ช่วยระบุแนวโน้มและการกลับตัวได้แม่นยำยิ่งขึ้น:

-เมื่อ CCI ขึ้นเหนือ +100 และมีการตัดกันของค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ เช่น เส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้นตัดขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยระยะยาว นี่เป็นสัญญาณยืนยันว่าแนวโน้มขาขึ้นอาจกำลังเริ่มต้น

-ถ้าราคาของสินทรัพย์อยู่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ที่ลดลง และ CCI อยู่ต่ำกว่าศูนย์ นั่นอาจหมายถึงแนวโน้มขาลงที่แข็งแกร่ง

2. Relative Strength Index (RSI)

การใช้ RSI ร่วมกับ CCI ช่วยยืนยันสัญญาณการซื้อหรือขาย:

-หาก CCI แสดงสัญญาณว่าอยู่ในภาวะ Overbought (เช่น ค่าของ CCI สูงกว่า +100) และ RSI ยืนยันด้วยการข้ามเส้น 70 ขึ้นไป จะเป็นการเพิ่มความเป็นไปได้ที่ราคาจะปรับตัวลง

-ในทำนองเดียวกัน หาก CCI อยู่ในภาวะ Oversold (เช่น ค่าของ CCI ต่ำกว่า -100) และ RSI อยู่ต่ำกว่า 30 จะเป็นการยืนยันแนวโน้มขาลง

3. Bollinger Bands

Bollinger Bands ช่วยระบุความผันผวนของราคา และเมื่อใช้ร่วมกับ CCI จะช่วยยืนยันการกลับตัวของแนวโน้ม:

-เมื่อ CCI เคลื่อนเข้าสู่ค่าสูงสุดหรือต่ำสุด เช่น สูงกว่า +100 หรือ ต่ำกว่า -100 และราคาก็แตะที่แถบด้านบนหรือล่างของ Bollinger Bands จะเป็นการยืนยันที่แข็งแกร่งถึงการกลับตัวของราคา

4. MACD (Moving Average Convergence Divergence)

MACD เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการระบุแนวโน้มและการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้ม:

-เมื่อใช้ MACD ร่วมกับ CCI นักเทรดสามารถใช้ MACD เพื่อระบุแนวโน้มหลัก และใช้ CCI ในการหาจุดเข้าหรือออกจากตลาดตามแนวโน้มดังกล่าว

-หาก MACD แสดงสัญญาณขาขึ้น และ CCI อยู่ในระดับต่ำกว่า -100 แล้วขยับขึ้นเหนือศูนย์ นี่อาจเป็นสัญญาณการซื้อที่ดี

ข้อดีของ Commodity Channel Index (CCI)

-สามารถใช้ระบุสถานะของตลาดว่าอยู่ในภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) หรือขายมากเกินไป (Oversold)

-สามารถใช้ระบุการกลับตัวของแนวโน้ม

-สามารถใช้ค้นหาโอกาสในการซื้อขาย

-ใช้งานง่ายและเข้าใจได้ไม่ยาก

-สามารถใช้ร่วมกับอินดิเคเตอร์ทางเทคนิคอื่นๆ เพื่อเพิ่มความแม่นยำ

ข้อจำกัดของ CCI Indicator

แม้ว่า CCI จะเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ แต่การใช้งานควรใช้ร่วมกับตัวชี้วัดอื่น ๆ เพื่อยืนยันสัญญาณที่ได้จาก CCI เนื่องจากสัญญาณการกลับตัวอาจไม่เกิดขึ้นเสมอไป และความผันผวนของตลาดอาจทำให้การคำนวณ CCI มีความไม่แน่นอน

สรุป

Commodity Channel Index (CCI) เป็นเครื่องมือที่มีความหลากหลาย ช่วยให้นักเทรดตัดสินใจเกี่ยวกับแนวโน้มตลาด จุดซื้อขาย และการกลับตัวได้อย่างมั่นใจ การเข้าใจถึงวิธีการทำงานของ CCI การตีความสัญญาณต่างๆ อาจช่วยการพัฒนากลยุทธ์การเทรดให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น 

การซื้อขายอนุพันธ์มีความเสี่ยงสูงและอาจไม่เหมาะสําหรับทุกคน

thailand

Recent Posts

ประกาศเปลี่ยนแปลงชั่วโมงซื้อขายประจำเดือนพฤษภาคม

เรียนลูกค้าผู้มีอุปการคุณ โปรดตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงชั่วโมงซื้อขายของผลิตภัณฑ์ต่อไปนี้ตามวันหยุดประจำเดือนพฤษภาคม โปรดดูตารางด้านล่างสำหรับตราสารอนุพันธ์ที่จะมีการเปลี่ยนแปลง: วันที่ 12 พฤษภาคม 2025(วันจันทร์) 13 พฤษภาคม 2025(วันอังคาร) วันหยุด วันวิสาขบูชา วันเสด็จสู่สวรรค์ของพระเยซู USDINR ปิด…

20 hours ago

Cryptocurrency Payment Channel Maintenance Completed

Dear Valued Client, We are pleased to inform you that the scheduled maintenance for our…

2 days ago

Cryptocurrency Payment Channel Maintenance Notification

Dear Valued Client, In order to provide you with a better trading experience, STARTRADER will…

3 days ago

ประกาศอัปเกรดพอร์ทัลลูกค้าและ MT5

เรียนลูกค้า: เพื่อให้ลูกค้าสัมผัสประสบการณ์เทรดที่ดียิ่งขึ้น STARTRADER จะมีการอัปเกรดระบบพอร์ทัลลูกค้าและแพลตฟอร์ม MT ตามกำหนดการดังต่อไปนี้: พอร์ทัลลูกค้า การอัปเกรดจะเริ่มตั้งแต่เวลา 02:00 ถึง 05:00 น. (GMT+3) ในวันที่ 10…

3 days ago

New Archiving Conditions for MT5 Live 1 Accounts

Dear Valued Clients, To further optimize platform resource allocation and enhance service efficiency, STARTRADER will…

1 week ago

ประกาศสำคัญ: แจ้งเตือนการแอบอ้างตัวตนและฉ้อโกง

เรียนลูกค้าผู้มีอุปการคุณ เราขอเรียนให้ทราบถึงเหตุการณ์ล่าสุดที่มีผู้ไม่หวังดีแอบอ้างตนเป็น CEO ของเราโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีเจตนาฉ้อโกงผ่านการส่งข้อความส่วนตัว ขอเรียนให้ทราบว่า CEO รวมไปถึงคณะผู้บริหารของของเรา จะไม่มีการติดต่อหาลูกค้าโดยตรงผ่านช่องทางส่วนตัว หรือขอให้ทำธุรกรรมผ่านช่องทางที่ไม่เป็นทางการใดๆ ทั้งสิ้น การติดต่อจาก STARTRADER ตามกฎหมายจะต้องติดต่อผ่านช่องทางที่เป็นทางการและยืนยันแล้วเท่านั้น หากมีบุคคลใดก็ตามที่แอบอ้างเป็นตัวแทนของ…

1 week ago